ผมร่วง แห้งเสีย ขาดน้ำหนัก สาเหตุ

ผมสวย ดัด ย้อม ทำ สี รีบอนดิ้ง อย่างไร ไม่ให้ผมเสีย
ไม่อยากหลุดเทรนด์แต่กลัวหลุดร่วง....
สาวๆคลับPoonari108เรามีคำตอบคร้า...

ก่อนอื่นเรา มาทำความเข้าใจกันก่อนว่า
ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของ
ผมร่วง แห้งเสีย ขาดน้ำหนัก มีอะไรบ้าง

1.พันธุกรรมเป็นสาเหตุหลัก
พบมากถึง90%ทั้งชายและหญิงเลยล่ะค่ะ

2.การขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผม
สาวๆที่มีหุ่นผอมบางแบบนางแบบอาจมีการจำกัด
การรับประทานอาหารอาจทำให้ร่างกาย
ขาดสารอาหารที่บำรุงเส้นผมได้นะคะ
รวมถึงสาวๆที่รับประทานอาหารไขมันสูงๆ
มีส่วนขัดขวางการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็น
สำหรับเส้นผมได้

3.กระแสแฟชั่น
แฟชั่นทรงผมมีการใช้สารเคมีในการดัด
ทำสีไฮไลท์ รีบอนด์ดิ้งผม
ซึ่งเป็นการทำลายโครงสร้างของเส้นผม
ทำให้ผมแห้งแตกปลาย
เกิดการหงิกงอที่ปลายผม
ทำให้เซลล์รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่าย

4.ภาวะเครียดทางจิตใจ
ความเครียดทำให้เกิดการบีบตัวของเส้นเลือด
การไหลเวียนของเส้นเลือดลดลง
ทำให้ระบบดูดซึึมวิตะมินและแร่ธาตุต่างๆลดลง
เซลล์รากผมขาดสารอาหาร
เส้นผมอ่อนแอ ส่งผลให้ผมเแห้งแตกปลาย
ผมขาดหลุดร่วงได้ง่าย

5.สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ
มลพิษรอบตัวเรามีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
เช่น แสงแดด อากาศแห้งในห้องปรับอากาศ
เหล่านี้เป็นสาเหตุ
ให้ผมแห้งเสียเกิดอนุมูลอิสระ
ที่เข้ามาทำลายเซลล์รากผมมากยิ่งขึ้น

การดูแลเส้นผมจึงต้อง
ไม่เพียงแค่ดูแลจากภายนอกอย่างเดียว
ยังจำเป็นต้องดูแลจากภายใน
ให้ถึงเซลล์รากผมด้วย
โดยการรับประทานอาหารที่จำเป็น
และสารอาหารวิตะมินที่ช่วยบำรุง
ให้ผมสวยเงางามมีน้ำหนัก
นุ่มสลวยพลิ้วไหวรวมถึงผมยาวได้อย่างต่อเนื่อง
ลองติดตาม ผมร่วง แห้งเสีย ขาดน้ำหนัก เรามีคำตอบ
ขั้นตอนในการบำรุงและฟื้นฟู
สภาพเส้นผมจากภายในกันต่อนะคะ

ผมร่วง แห้งเสีย ขาดน้ำหนัก มีคำตอบ...

ลองอ่าน 4ขั้นตอน
ในการบำรุงฟื้นฟูสภาพเส้นผมจากภายในกันค่ะ


จากสาเหตุที่เกิดจากกรรมพันธ์
ขั้นตอนที่1.
ขจัดปัญหาผมร่วงสาเหตุทางพันธุกรรม
สารอาหารและวิตะมินที่จำเป็นนั่นคือ
สังกะสีคีเลต ทำงานร่วมกับวิตะมินบีุ6
ช่วยยับยั้งเอ็มไซม์5 alpha reductase
ที่เป็นสาเหตุหลักของผมร่วงทางพันธุกรรมถึง90%

ส่วนการใช้สารเคมีในการดัด ทำสีไฮไลท์ รีบอนดิ้งผม
ซึ่งเป็นการทำลายโครงสร้างของเส้นผม
ขั้นตอนที่2. 
สร้างผมใหม่ที่ดีและแข็งแรงกว่าเดิม
สารอาหารและวิตะมิน ที่จำเป็นนั่นคือ
ไบโอติน
ช่วยในการบำรุงเส้นผมและหนังศรีษะ
ทำให้เส้นผมสลวย
บำรุงเส้นผมไม่ให้เปราะและแตกง่าย
บริเวอร์ยีสต์และสาหร่ายสไปรูไลน่า
เป็นแหล่งของกรดอะมิโน
ทำให้เซลล์รากผมแข็งแรง
เลซิตินและใบแปะก๊วย
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
บริเวณหลอดเลือดส่วนปลายรากผม
ทำให้เซลล์รากผมได้รับ
สารอาหารเต็มที่และแบ่งตัวได้ดี
เส้นผมมีสุขภาพแข็งแรง

ขั้นตอนที่3
ปกป้องการทำลายเซลล์รากผมใหม่
วิตะมินเอและสังกะสีคีเลต
ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้เชื้อโรคและอนุมูลอิสระ
ทำลายเซล์รากผม
โฟลิคแอซิคและวิตะมินซี
เพิ่มการดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผม
และลดความเครียดได้

ขั้นตอนที่4
สร้างเส้นผมที่ขึ้นใหม่ให้ดกดำนุ่มสลวย
วิตะมินบี5หรือแพนโทธินิคและวิตะมินอี
ช่วยให้การทำงานของต่อมไขมันบนหนังดีขึ้น
ส่งผลให้ผมไม่แห้งกร้าน ผมนุ่มสลวย
สวยเป็นธรรมชาติ
ซิลิคอน
ช่วยให้เส้นผมแห้งกร้านกลับมามีชีวิตชีวา
เพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผมมีสปริง เงางาม
และป้องกันผมหงอกก่อนวัย

references :
-Tanumihardjo SA.Assessing vitamin a status partJ Nutr2oo4,Jan;134(1):290s-3s
-Garcia-hernandez and friends,alopecia areata,stress a review,1999.Oct26:625-32
-Powell BC,The role of keratin proteins and their genes in the growth structure
and properties of hair.EXS1977;78;59-148

โต๊ะอาหารดินเนอร์สุดหรู 5วิธีเอาตัวรอด

แม้จะไม่ได้ตั้งใจหรือชื่นชอบร้านอาหารหรูหรา
แต่ต้องมีสักมื้อแหละน่าที่คุณต้องเจอ
สาวคลับPoonari108
ต้องPerfect
เลยไปค้นหาเรื่องของมารยาท
และกฏบางอย่างที่ต้องทำ
มาให้คุณๆได้อ่านกัน


1.มั่นใจซะอย่าง ทำอะไรก็ดูดี
เมื่อไปถึงโต๊ะอาหารชายหนุ่มหรือบริกร
จะทำหน้าที่เลื่อนเก้าอี้ให้คุณนั่ง
แต่ถ้าไม่มีใครทำคุณก็แค่
จับพนักเก้าอี้ด้วยมือขวา
ขยับเก้าอี้นิดนึงแล้วเบี่ยงตัวเข้าไปนั่ง
จากทางด้านซ้ายมือ
แต่ต้องไม่นั่งเต็มเก้าอี้ล่ะ
ลำตัวจะได้ตั้งตรงสง่างาม
ถ้ามีกระเป๋าถือให้วางกระเป๋าถือไว้บนโต๊ะ
เมื่อมองไปที่จานข้างหน้า
คุณจะเห็นผ้ากันเปื้อนNapkinพับวางอยู่
จงหยิบมันคลี่ออกมาพับทบครึ่ง
จากนั้นก็วางไว้บนตัก
โดยหันด้านสันเข้าหาตัว
สบายมากเลยใช่มั๊ยล่ะคะ

2.รู้จักเมนู
โดยทั่วไปอาหารเหล่านี้
จะแบ่งเป็น3ประเภทคือ
อาหารเรียกน้ำย่อยหรือAppitizer
อาหารจานหลักหรือMain Course
และอาหารหวานหรือDessert
บางร้านจะมีเมนูเด็ดเฉพาะ
วันที่กำหนดไว้ตายตัวแล้ว
คุณไม่ต้องเลือกแต่บางทีก็มีอาหารพิเศษ
บางรายการมาให้เลือกสั่ง
ถ้าคุณรู้จักอาหารเหล่านั้นก็เลือกตามชอบ
แต่ถ้าไม่รู้จักก็ไม่ต้องแสดงอาการตกใจนะคะ
แหมใครจะไปรู้หมดทุกเรื่อง...
คุณก็แค่เอ่ยปากถาม
รายละเอียดอาหารเมนูดังกล่าว
จากบริกรหรือเราจะเอาตัวรอด
ด้วยการมอบหน้าที่สั่งอาหาร
ให้กับชายหนุ่มซะเลย


3.เรียนรู้อุปกรณ์การรับประทานอาหาร
ก่อนอื่น
ต้องไม่ตื่นเต้นกับจาน ช้อนส้อม มีดสารพัด
ที่วางอยู่บนโต๊ะ
เพราะอุปกรณ์เหล่านี้เขามัก
จะเตรียมไว้พอดีกับการทานอาหาร
แต่ละจานตามลำดับ
ส้อมส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของจาน
จะมีถ้วยกาแฟวางอยู่ตรงหน้าคุณ
ถัดออกไปทางขวาจะมีแก้ว3ใบ
ใบใหญ่คือแก้วน้ำ
ใบกลางสำหรับไวน์แดงและ
ใบขนาดเล็กที่สุดสำหรับไวน์ขาว
เวลาจับแก้วไวน์
ให้จับที่ก้านแก้วไม่ใช่จับที่ตัวแก้ว
แต่ไม่ต้องไปกังวลมากนักนะคะ
เพราะเมื่อถึงเวลาบริกร
จะเดินเข้ามาดูแลคุณเอง

4.ขนมปังอยู่ซ้ายมือ
ปกติบนโต๊ะจะมีจานพร้อมเนย
และมีดตัดเนย
สำหรับป้ายขนมปังวาง
อยู่ทางซ้ายมือของจานใหญ่
ซึ่งขนมปังอาจวางอยู่แล้ว
ในตระกร้ากลางโต๊ะ
หรือไม่บริกรจะเดินมาเสิร์ฟ
แค่คุณบอกบริกรว่าต้องการชิ้นไหน
บริกรก็จะคีบใส่จานให้
ส่วนวิธีรับประทานขนมปังให้ใช้มือบิพอคำ
แล้วใช้มีดตัดเนยป้ายที่ขนมปัง
แล้วก็ใช้มือส่งเข้าปาก
ถ้าบังเอิญมีเศษอาหารหก
หรืออุปกรณ์ชิ้นใดหลุดหล่น
คุณไม่ต้องก้มลงเก็บเอง
เพราะร้านอาหารระดับนี้
เพียงไม่กี่วินาทีบริกรก็จะเข้ามาจัดการให้

5.รู้ทิศทางการเสิร์ฟ
บริกรจะนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟทีละจาน
โดยเขาจะเข้าทางขวาของคุณเสมอ
คุณเพียงเบี่ยงตัวเล็กน้อยพองาม
ให้เขาวางจานอาหารได้สะดวกเสร็จ
แล้วก็อาจยิ้มหรือพยักหน้าเล็กน้อย
เป็นการแสดงอาการขอบคุณ
โปดจำไว้ว่าอาหารจะเข้ามาทางขวา
และออกด้านซ้ายมือของคุณเสมอ
ส่วนอุปกรณ์มีด ส้อมให้ถือหลักว่า
หยิบจากชิ้นที่อยู่ห่างตัวคุณเข้ามาหาตัว
ตามที่เขาเรียงไว้
ถ้าไม่แน่ใจก็คอยให้สังเกตผู้ร่วมโต๊ะว่า
เขาทำอย่างไรบ้าง
แล้วทำตามซะยังไงก็
ไม่เสียฟอร์มหรอกนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Night Survival 10pm Magazine Life after work

สปาเองที่บ้าน ทำได้ง่ายจัง

ทั้งอาทิตย์นี้งานยุ่ง
ทำงานใช้สมอง
จนรู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า เสียเหลือเกิน
ทำให้รู้สึกว่า คงต้องหาวิธี มาทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
นึกถึงการทำสปา
ในร้านหรูๆกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย
จากเตาเซรามิค
นึกถึงดอกลีลาวดีลอยน้ำในอ่าง
นึกถึงมีคนมาคอยนวดเฟ้น
แต่พอหันกลับมามองเงินในกระเป๋า
ถ้าไปร้านสปา กลับมาคงจะยิ่งเครียด
เพราะเงินในกระเป๋าคงจะอยู่ไม่ถึงสิ้นเดือน
อาจจะสิ้นใจไปซะก่อน
ท่าทางคงต้องไปหาเสาะหาวิธี
ที่จะทำให้บ้านของเรา กลายเป็นสปาสุดหรู
อ่ะนะ น่าจะไม่เกินกำลัง
เริ่มต้น
คงจะต้องเก็บบ้าน เก็บห้อง
จัดวางข้าวของให้เป็นระเบียบซะก่อน
เมื่อใดก็ตามที่ รู้สึกว่าหาอะไรก็ไม่เจอ
อยู่ตรงไหนก็ไม่รู้
คงต้องมาจัดแยก ของให้เป็นหมวดหมู่
เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ จิปาถะ
หากล่อง มาใส่ให้เรียบร้อย
ถ้ากลัวว่าจะจำไม่ได้ก็ทำป้ายเก๋ๆ ฝีมือเราติดไว้ก็ดี
เวลาจะใช้ จะหาได้ง่าย
ไม่ต้องมานั่งโมโห ว่า
เก็บไว้ที่ไหนนะให้หงุดหงิดใจ

ลองมองหามุมสปา ในบ้าน ในห้อง
ลองไปหาซื้อ
เตาดินเผาหรือเตาเซรามิคกับน้ำมันหอมระเหย
หรือจะใช้เทียนหอมจุดไฟ
ค่อยๆให้กลิ่นของความหอมกระจายไปทั่วห้อง
จะทำให้รู้สึกปลอดโปร่งกระปรี้กระเปร่า รู้สึกผ่อนคลาย
ขึ้นอยู่กับกลิ่นที่เราเลือก
อย่างกลิ่นที่หอมสดชื่น
ของผลไม้พวกส้ม มะนาว  แอปเปิ้ลเขียว
จะทำให้วันที่แสนหดหู่ของเรา
กลายเป็นวันที่สดใสได้อย่างน่าแปลกใจ
เพราะกลิ่นของส้ม มะนาวและแอปเปิ้ลเขียว
จะไปกระตุ้นให้สมอง
ผลิตคลื่นสมองที่ทำให้เรารู้สึก
สบายและผ่อนคลาย
หรือใครจะชอบกลิ่นอื่นๆก็เลือกหาซื้อ
มาได้ตามความพึงพอใจ

วิธีการง่ายๆ
ให้หยดน้ำมันหอมระเหยลงในน้ำก่อน
ความร้อนจากเตาที่จุดไฟไว้ข้างใต้ 
จะช่วยส่งกลิ่นของน้ำมันหอมระเหย
ให้กระจายไปทั่วห้อง
หรือหยดลงในภาชนะเล็กชุบสำลีไปวางไว้ตามมุมห้อง 
กลิ่นหอมอ่อนๆ
จะทำให้บรรยากาศของบ้านน่าอยู่ขึ้นเยอะ
ส่วนห้องน้ำ 
ลองหาต้นไม้เล็กๆ 
เช่น ต้นกระบองเพชรไม้อวบน้ำหรือต้นไม่ใบเขียว 
มาวางไว้ 
หรือใช้ดอกลีลาวดี ดอกไม้ตามใจชอบ
ใส่อ่างแก้วลอยน้ำจะช่วยเติมแต่งห้องน้ำให้มีชีวิตชีวา




ลำดับต่อมา คือ
การอาบน้ำ
ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัว
พรายฟองฟู่ไหลผ่านทั่วตัวตั้งแต่ หัวจรดเท้า
จะทำให้เรารู้สึกสบายผ่อนคลายอย่างแท้จริง

การเลือกสบู่
เลือกใช้ให้เหมาะสภาพกับผิว
แต่ถ้าไม่แน่ใจว่าจะใช้สบู่แบบไหน
ให้ลองเลือกใช้ สบู่เด็ก
เพราะจะหมดห่วงกับอาการระคายเคือง
ที่อาจเกิดจากการแพ้ หัวน้ำหอม
หรือส่วนผสมอื่นๆในสบู่

เตรียมสครับขัดผิว
เพื่อขัดจุดด่างดำ จากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ
จะหาซื้อที่ทำสำเร็จรูป ตามร้าน
หรือถ้าอยากประหยัดสตางค์
ให้ใช้ ไพลที่บดเป็นผง
ผสมกับน้ำมะนาวและเกลือเล็กน้อย
คนให้เข้ากัน
ถ้ามีผิวแห้งน้ำผึ้งติดบ้านก็หยดลงไป
เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
หรือ จะใช้ ขมิ้น ไพล ดินสอพอง
หาซื้อได้จากในตลาดที่มีแม่ค้าหาบมาขาย
คนให้เข้ากัน
เท่านี้เราก็มีสครับไว้ใช้ขัดผิวทำสปาที่บ้านเองแล้ว

การขัดผิว
เราต้องหาตัวช่วย
จะเลือกใช้ฟองน้ำหรือแปรงนุ่มๆขัดผิวก็ได้
แต่ที่ใช้แล้วทำให้ขัดผิวได้หมดจด
ให้ลองใช้ใยบวบที่แก่แล้วไว้ใช้ขัดและนวดผิว
แต่ก่อนที่จะนำใยบวบมาใช้
ให้นำไปแช่น้ำร้อนก่อนสัก20 นาที
เพื่อทำให้ใยบวบอ่อนตัวและนุ่มลง
ป้องกันอาการผิวระคายเคือง

เมื่อขัดผิวแล้ว
ล้างน้ำออก
แล้วค่อยอาบน้ำฟอกสบู่ตามปกติ
ถ้าต้องการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง
พร้อมความสะอาดล้ำลึก
ให้ใช้ใยบวบขัดผิวกับสบู่จนเกิดฟอง
แล้วค่อยล้างน้ำชำระล้าง
คราบสบู่ตามตัวออกให้หมด

ต่อจากนั้น
จัดการสระผม
ด้วยแชมพูที่เราใช้ตามปกติ
ใช้ปลายนิ้วค่อยๆนวดหนังศีรษะ
วนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆให้ทั่วศีรษะ
อย่าเกาศีรษะด้วยเล็บ
ล้างแชมฟูให้หมด
ต่อจากนั้นให้โน้มตัวลงต่ำ
ใช้นิ้วสางผมลงมา
แล้วใช้มือดึงโคนผมเบาๆ
จะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

หลังจากชุ่มชื่นกับการอาบน้ำและขัดผิว
ต้องไม่ลืมที่จะใช้
เบบี้ออยส์หรือโลชั่นหรือน้ำมันมะกอกทาผิว
เพราะจะทำให้
ผิวของเราเนียนนุ่มน่าสัมผัส

ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้
ขออยู่บ้านทำสปา
แทนการเดินตากแอร์ ช้อบปิ้ง ละกันนะ

วางแผนการเงิน วิธีใช้เงินอย่างฉลาด

สาวๆคลับPoonari108i"นอกจากจะสวยมีสุขภาพดี
สิ่งที่จะขาดไม่ได้นั่นก็คือการรู้จักใช้เงินให้คุ้มค่า
ในยุคที่ของมีแต่ขึ้นราคา
ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้
ราคาแพงขึ้นเป็นเท่าตัว

ลองมาอ่านวิธีใช้เงินให้คุ้มค่ากันนะคะ
เพราะหากเรามีอนาคตการเงินที่มั่นคง
ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก็ไม่ใช่ปัญหา

1.จัดสรรการใช้
ทุกครั้งที่มีเงินสดเข้ามาในบัญชี
คุณจะต้องจัดสรรเงินออกเป็นส่วนๆนะคะ
เช่นส่วนที่1สำหรับค่า.....
ส่วนที่2 สำหรับค่า....ฯลฯ
หมั่นทำให้เป็นนิสัยนะคะ
จะช่วยให้คุณบริหารการใช้เงิน
ได้อย่างสบายๆทีเดียว
 2.บันทึกทุกบาททุกสตางค์
จด...จด..และจด ทุกรายการจ่ายของคุณ
ลงในสมุดโน๊ตประจำตัว
ที่ต้องพกติดตัวไปกับคุณทุกที่
ต้องไม่ลืมใส่ทุกรายละเอียดปลีกย่อย
ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องเงินลงไปด้วยนะคะ
จะได้เอาไว้เตือนตัวเอง
เราใช้จ่ายมากไปแล้วหรือเปล่า


3.เคลียร์บัตรเครดิตเต็มจำนวน
จำให้ขึ้นใจ
ต้องจ่ายบัตรเครดิตให้เต็มจำนวนทุกครั้ง
เพื่อไม่ให้มีหนี้ค้างสะสม
คุณเองก็คงไม่อยากเสียเงินไปฟรีๆ
เป็นค่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตจริงมั๊ยคะ

4.ออมอย่างมีเป้าหมาย
อยากประสบกับความสำเร็จ
เราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนค่ะ
เช่นเก็บเงินเพื่อดาวน์รถยนต์
หรือเที่ยวยุโรปปลายปีฯลฯ
และหมั่นเตือนตัวเองอยู่เสมอ
รับรองว่าคุณจะมีกำลังใจ
ในการเก็บเงินเพิ่มขึ้นอีกโขทีเดียวค่ะ

5.อย่าเดี๋ยว
รู้มั๊ยคะว่าอุปสรรคขัดขวางความสำเร็จของคุณ
คือการประวิงเวลาเริ่มต้นนี่ล่ะค่ะ
ความที่คุณมัวรีรอกับคำว่าเดี๋ยว
อาจทำให้คุณพลาดโอกาสดีๆ
ไปอย่างหน้าเสียดายนะคะ

6.ซื้อกองทุนดีกว่า
เงินทั้งหมดของคุณ
ไม่จำเป็นต้องอยู่ในบัญชีออมทรัพย์ทั้งหมดนะคะ
แบ่งมาซื้อกองทุน
ที่มีความเสี่ยงต่ำเก็บไว้ก็ดีกว่า
นอกจากผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
ยังไม่ต้องเสียภาษีอีกต่างหาก

7.วางแผนการเงินเพื่ออนาคต
แนะนำให้เขียนโครงการขึ้นมาเลยค่ะ
ว่าช่วงอายุเท่าไหร่คุณจะทำอะไร
หรือมีเงินเก็บมากน้อยแค่ไหน
ต่อจากนั้นให้ก็ดำเนินการใช้
และเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
แค่นี้อนาคตไม่น่าเป็นห่วงแล้วล่ะคะ


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก Oriental princess society exclusive magazine